
ยา GLP-1 เช่น Ozempic และ Wegovy มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคเบาหวานประเภท 2 และการลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ได้ผลสำหรับทุกคน การศึกษาพบว่าผู้ใช้มากถึง 17% ลดน้ำหนักตัวเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย เนื่องจากโรคอ้วนมีความซับซ้อน แพทย์จึงกล่าวว่าจำเป็นต้องมียาใหม่ที่ออกฤทธิ์ต่อวิถีทางชีวภาพที่แตกต่างกัน
การทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 ใหม่ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet ได้ทดสอบยาฉีดที่เรียกว่า eloralintide สัปดาห์ละครั้ง ซึ่งพัฒนาโดย Eli Lilly ซึ่งแตกต่างจากยา GLP-1 eloralintide กระตุ้นตัวรับ amylin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ปล่อยออกมาจากตับอ่อนระหว่างมื้ออาหาร ฮอร์โมนนี้ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ทำให้ท้องว่างช้าลง และสนับสนุนการเผาผลาญ
การศึกษานี้รวมผู้ใหญ่ 263 คนที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนและไม่มีโรคเบาหวานประเภท 2 ผู้เข้าร่วมได้รับยาอีโลราลินไทด์หรือยาหลอกในปริมาณต่างๆ กันเป็นเวลา 48 สัปดาห์
ลดน้ำหนักได้มากถึง 20% หลังจาก 48 สัปดาห์
ผู้ที่รับประทานยา eloralintide สามารถลดน้ำหนักตัวได้ 9% ถึง 20% ในขณะที่กลุ่มที่ใช้ยาหลอกลดน้ำหนักได้ 0.4% นักวิจัยยังรายงานการปรับปรุงรอบเอว ความดันโลหิต การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับคอเลสเตอรอล และเครื่องหมายการอักเสบ ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ได้รับการปรับปรุงตามหมวด BMI (ดัชนีมวลกาย) อย่างน้อยหนึ่งหมวด
แพทย์ตั้งข้อสังเกตว่าการลดน้ำหนักยังไม่คงที่ บ่งชี้ว่าการรักษานานขึ้นอาจให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ความสำคัญของการกำหนดเป้าหมายอะไมลิน
เนื่องจากยาอีโลราลินไทด์ออกฤทธิ์ผ่านกลไกที่แตกต่างจากยา GLP-1 จึงอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ตอบสนองต่อยาในปัจจุบันได้ไม่ดี ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการมีทางเลือกในการใช้ยามากขึ้นจะช่วยให้แผนการลดน้ำหนักที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ขั้นตอนต่อไป
ยาอีโลราลินไทด์จะเข้าสู่การทดลองระยะที่ 3 ซึ่งจะรวมผู้เข้าร่วมกลุ่มใหญ่ขึ้นและหลากหลายมากขึ้น เพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิผลของยาในระยะยาว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผลลัพธ์ที่ได้มีแนวโน้มดี แต่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ข้อมูลในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากยารักษาโรคอ้วนอาจมีราคาแพงและไม่ได้ประกันเสมอไป
แหล่งที่มาของข้อมูล: มีดหมอ












Discussion about this post