อาการปวดท้องในช่วงวัยหมดประจำเดือนอาจทำให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกไม่สบายและวิตกกังวล แม้ว่าการมีประจำเดือนจะหยุดลงในช่วงวัยหมดประจำเดือน แต่การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในร่างกายอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องได้ ในบทความนี้เราจะอธิบายสาเหตุของอาการปวดท้องและปวดท้องในวัยหมดประจำเดือน
วัยหมดประจำเดือนถือเป็นจุดสิ้นสุดของรอบประจำเดือนของผู้หญิง ซึ่งได้รับการยืนยันหลังจากผ่านไป 12 เดือนโดยไม่มีประจำเดือน วัยหมดประจำเดือนมักเกิดขึ้นระหว่างอายุ 45 ถึง 55 ปี แต่อาจเกิดขึ้นเร็วหรือช้ากว่านั้นก็ได้ วัยหมดประจำเดือนเป็นกระบวนการทางชีววิทยาตามธรรมชาติที่มีลักษณะเฉพาะคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมถึงการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหลายส่วนของร่างกาย รวมถึงช่องท้องด้วย
สาเหตุของอาการปวดท้องในวัยหมดประจำเดือน
อาการปวดท้องในช่วงวัยหมดประจำเดือนอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ความผันผวนของฮอร์โมนไปจนถึงสภาวะสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ นี่คือสาเหตุของอาการปวดท้องในวัยหมดประจำเดือน:
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: การลดลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องอืดและไม่สบายท้อง
- ปัญหาระบบทางเดินอาหาร: ภาวะต่างๆ เช่น อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) อาการท้องผูก และกรดไหลย้อน อาจเด่นชัดมากขึ้นในช่วงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดท้องและปวดท้อง
- ความผิดปกติของอุ้งเชิงกราน: เมื่ออายุมากขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอาจอ่อนแอลง นำไปสู่ภาวะต่างๆ เช่น อวัยวะในอุ้งเชิงกรานย้อย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและปวดท้องส่วนล่าง
- เนื้องอกในมดลูก: แม้ว่าการเจริญเติบโตของเนื้องอกในมดลูกมักจะช้าลงตามระดับฮอร์โมนที่ลดลง แต่เนื้องอกที่มีอยู่อาจทำให้เกิดอาการปวดหรือไม่สบายได้
- ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่: สำหรับผู้ที่มีอาการนี้ วัยหมดประจำเดือนอาจบรรเทาอาการได้หลายอย่าง แต่ในบางกรณี เนื้อเยื่อเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดต่อไปได้
- ซีสต์รังไข่: สตรีวัยหมดประจำเดือนมีโอกาสน้อยที่จะพัฒนาซีสต์รังไข่ แต่เมื่อเกิดซีสต์รังไข่ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้
- มะเร็งทางนรีเวช: แม้ว่าจะพบได้น้อย แต่ความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดจะเพิ่มขึ้นตามอายุ เลือดออกในวัยหมดประจำเดือนหรือปวดท้องต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันทีเพื่อขจัดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งทางนรีเวชอื่นๆ
การวินิจฉัยและการจัดการ
การวินิจฉัยสาเหตุของอาการปวดท้องในช่วงวัยหมดประจำเดือนมักจะรวมถึงการทบทวนประวัติทางการแพทย์อย่างครอบคลุม การตรวจร่างกาย และการตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือด อัลตราซาวนด์ หรือการส่องกล้อง การจัดการขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงและอาจรวมถึง:
- การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต: การเปลี่ยนแปลงอาหาร เช่น การเพิ่มปริมาณใยอาหารและการลดการรับประทานอาหารที่ทำให้ท้องอืด สามารถบรรเทาอาการได้ การออกกำลังกายเป็นประจำและเทคนิคการจัดการความเครียดก็ช่วยได้เช่นกัน
- การใช้ยา: อาจแนะนำให้ใช้ยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์เพื่อรักษาอาการท้องอืดในช่องท้อง การรักษาด้วยฮอร์โมน หรือการรักษาเฉพาะสำหรับอาการต่างๆ เช่น IBS
- การบำบัดด้วยอุ้งเชิงกราน: การออกกำลังกายและกายภาพบำบัดสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและบรรเทาอาการปวดที่เกี่ยวข้องได้
- การผ่าตัด: ในกรณีที่อาการปวดเกิดขึ้นจากเนื้องอก ซีสต์ หรือภาวะอื่นๆ ที่ต้องมีการผ่าตัด อาจพิจารณาทางเลือกในการผ่าตัด
บทสรุป
อาการปวดท้องในช่วงวัยหมดประจำเดือน แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัยชราเท่านั้น ตะคริวในช่องท้องหลังวัยหมดประจำเดือนสามารถบ่งบอกถึงสภาวะที่ซ่อนอยู่ เช่น เนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ท้องผูก หรือมะเร็งรังไข่หรือมะเร็งมดลูก หลายๆ คนมักมีตะคริวที่อุ้งเชิงกรานในช่วงมีประจำเดือน อย่างไรก็ตาม อาการปวดท้องหลังวัยหมดประจำเดือนสามารถบ่งบอกถึงภาวะทางการแพทย์ได้
หากปวดท้องหรือปวดกระดูกเชิงกรานร่วมกับอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเลือดออกทางช่องคลอด คุณต้องไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ใครที่กังวลเรื่องตะคริวในช่องท้องหรือตะคริวในอุ้งเชิงกรานควรไปพบแพทย์ด้วย
Discussion about this post